เหรียญหลวงปู่ไข่ วัดบพิตรพิมุข (วัดเชิงเลน) รุ่นพุทธาภิเษก พ.ศ.2515 เนื้อทองแดง รูปไข่
ราคาบูชา 1,200 บาท



เหรียญหลวงปู่ไข่ วัดเชิงเลน ปี 2515 ประกอบพิธีพุทธาภิเษก วันที่ 3-4 ธันวาคม 2515 โดยมีสมเด็จพระสังฆราช วัดพระเชตุพนวิมลมังคลาราม อธิษฐานจุดเทียนชัย มี พระเกจิอาจารย์ที่มีชื่อเสียงในยุคนั้นจากทั่วประเทศมาร่วมในพิธีมากมายถึง 56 รูป มีรายนามดังนี้
- พระเทพโสภณ (หลวงพ่อมหายม) วัดชนะสงคราม กรุงเทพฯ
- พระเทพเวที (หลวงพ่อทองคำ) วัดมหาธาตุ กรุงเทพฯ
- พระราชปัญญาโสภณ (หลวงพ่อสุข) วัดราชนัดดา กรุงเทพฯ
- พระราชสุธี วัดสระเกศ กรุงเทพฯ
- พระราชวรเมธี วัดสระเกศ กรุงเทพฯ
- พระราชธรรมเมธี (หลวงพ่อบุญมา) วัดจักรวรรดิราชาวาส กรุงเทพฯ
- พระอุดมสารโสภณ วัดเทพศิรินทร์ กรุงเทพฯ
- พระสิริทัตสุนทร วัดพลับพลาไชย กรุงเทพฯ
- พระอินทสมาจารย์ (หลวงพ่อเงิน) วัดอินทรวิหาร กรุงเทพฯ
- พระพุทธมนต์วราจารย์ (หลวงพ่อสุพจน์) วัดสุทัตเทพวราราม กรุงเทพฯ
- พระพิพัฒน์สังวรคุณ (หลวงพ่อสาย) วัดชัยชนะสงคราม กรุงเทพฯ
- พระวิสุทธิสารโสภณ(หลวงพ่อทอง) วัดคณิกาผล กรุงเทพฯ
- พระวิเชียรกวี วัดปากน้ำ กรุงเทพฯ
- พระวุฒิญาณมุนี วัดนางนอง กรุงเทพฯ
- พระโพธิวรคุณ (หลวงพ่อไพฑูรย์) วัดโพธิ์นิมิตร กรุงเทพฯ
- พระรักขิตวันมุนี (หลวงพ่อถิร) วัดป่าเลไลย์ จังหวัดสุพรรณบุรี
- พระสมุทรเมธาจาย์ (หลวงพ่อแจ่ม) วัดด่านสำโรง จังหวัดสมุทรปราการ
- พระครูวิริยกิตติ (หลวงปู่โต๊ะ) วัดปู่ฉิมพลี กรุงเทพฯ
- พระครูวิเศษมงคลกิจ (หลวงพ่อมิ่ง) วัดกก กรุงเทพฯ
- พระครูพรมโชติวัฒน์ (หลวงพ่อบุญมี) วัดอ่างแก้ว (ศิษย์เจ้าคุณฯ วัดหนัง) กรุงเทพฯ
- พระครูผาสุการโกวิท วัดเลา กรุงเทพฯ
- พรครูถาวรสมณวงศ์ วัดไทร กรุงเทพฯ
- พระครูสาธรธรรมกิจ วัดบางประทุน กรุงเทพฯ
- พระครูพิศาลสุตาคม วัดหนังราชวรวิหาร กรุงเทพฯ
- พระครูโกมุทสรคุณ (หลวงพ่ออินทร์) วัดสระบัว กรุงเทพฯ
- พระครูสาธุธรรมคุณาธาร (หลวงพ่อวน) วัดบพิตรพิมุข กรุงเทพฯ
- พระครูปราโมทย์ธรรมคุณ (หลวงพ่อชื่น) วัดอุทัยธาราม กรุงเทพฯ
- พระครโสภณกัลยาณมิตร (หลวงพ่อเส่ง) วัดกัลยาณมิตร กรุงเทพฯ
- พระครูกัลยานุกล (หลวงพ่อเฮง) วัดกัลยาณมิตร กรุงเทพฯ
- พระครูพิพิธวิหารการ (หลวงพ่อเทียม) วัดกษัตราธิราช จังหวัดพระนครศรีอยุธยา
- พระครูนนทกิจวิมล (หลวงพ่อชื่น) วัดตำหนักเหนือ จังหวัดนนทบุรี
- พระครูสรกิจพิจารย์ (หลวงพ่อผัน) วัดราษฎร์เจริญ จังหวัดสระบุรี
- พระครูศรีพรหมโสภณ (หลวงพ่อแพ) วัดพิกุลทอง จังหวัดสิงห์บุรี
- พระครูอาทรสิกขกิจ (หลวงพ่อบุญมี) วัดเขาสมอคอน จังหวัดลพบุรี
- พระครูสนิทวันัยการ (หลวงพ่อสนิท) วัดท่าโขลง จังหวัดลพบุรี
- พระครูพิบูลธรรมเวท (หลวงพ่อเปลื่อง) วัดหิรัญญาราม จังหวัดพิจิตร
- พระครูวินิตวชิรคุณ (หลวงพ่อวินิต) วัดขานุวรลักษบุรี จังหวัดกำแพงเพชร
- พระครูสุตาธิการี (หลวงพ่อทองอยู่) วัดหนองพะอง จังหวัดสมุทรสาคร
- พระครูโกวิทสมุทรคุณ (หลวงพ่อเนื่อง) วัดจุฬามณี จังหวัดสมุทรสงคราม
- พระครูปัญญโชติวัฒน์(หลวงพ่อเจริญ) วัดทองนพคุณ จังหวัดเพชรบุรี
- พระครูทองเจือ วัดกำแพง จังหวัดลพบุรี
- พระครูแจ๋ วัดโพธิ์เฉลิมรักษ์ จังหวัดฉะชิงเทรา
- พระครูธรรมธรถิร (หลวงพ่อถิร) วัดจักรวรรดิราชาวาส กรุงเทพฯ
- พระครูปลัดสำราญ วัดราชโอรสาราม กรุงเทพฯ
- พระครูปลัดบุญมาก วัดราชนัดดาราม กรุงเทพฯ
- พระครูปลัดจำนงค์ วัดสัมพันธวงค์ กรุงเทพฯ
- พระครูปลัดลำใย (หลวงพ่อลำใย) วัดทุ่งลาดหญ้า จังหวัดกาญจนบุรี
- พระมหาสอน (ศิษย์หลวงปู่ไข่) วัดบพิตรพิมุข กรุงเทพฯ
- พระอาจารย์ณรงค์ วัดมงคลวราราม กรุงเทพฯ
- พระอาจารย์ผ่องจินดา วัดจักรวรรดิราชาวาส กรุงเทพฯ
- พระอาจารย์ทวี วัดหนังราชวรวิหาร กรุงเทพฯ
- พระอาจารย์โชติ วัดจักรวรรดิราชาวาส กรุงเทพฯ
- พระอาจารย์เพิ่ม วัดจักรวรรดิราชาวาส กรุงเทพฯ
- พระอาจารย์ยงยุทธ วัดเขาไม้แดง จังหวัดชลบุรี
- พระอาจารย์สมภพ เตชปุญโญ วัดสาลิโข จังหวัดนนทบุรี
- หลวงพ่อกี๋ วัดหูช้าง จังหวัดนนทบุรี
หลวงปู่ไข่ อินทสโร วัดบพิตรพิมุข (เชิงเลน) หรือ อินฺทสโรภิกฺขุ (ไข่) หรือที่รู้จักกันดีในหมู่นักสะสมพระเครื่องว่า หลวงปู่ไข่เป็นชาวจังหวัดฉะเชิงเทรา บ้านเกิดอยู่บริเวณประตูน้ำท่าไข่ อำเภอเมือง จังหวัดฉะเชิงเทราในปัจจุบัน หลวงปู่ไข่ท่านเกิดเมื่อวันอาทิตย์ที่ 5 มิถุนายน พ.ศ. 2402 (ตลาดพระไทย, 2565) บิดาชื่อกล่อม มารดาชื่อบัว เมื่อท่านอายุได้ 6 ปี บิดาได้นำท่านไปฝากกับหลวงพ่อปาน วัดโสธรราชวรวิหาร เพื่อให้เรียนหนังสือ ต่อมาจึงบรรพชาเป็นสามเณร ฝึกหัดเทศน์จนมีชื่อเสียงในทางเทศน์มหาชาติ
เมื่อหลวงพ่อปานมรณภาพหลวงปู่ไข่เดินทางไปอยู่กับพระอาจารย์จวง วัดน้อย อำเภอพนัสนิคม จังหวัดชลบุรี เมื่ออายุ 15 ปี พระอาจารย์จวงรณภาพลง ท่านจึงเดินทางมาจำพรรษาที่วัดหงษ์รัตนาราม เขตบางกอกใหญ่ กรุงเทพฯ เรียนพระปริยัติธรรม 3 ปี จึงย้ายไปอยู่กับพระอาจารย์เอี่ยม วัดลัดด่าน จังหวัดสมุทรสงคราม
สามเณรไข่ ได้ศึกษาพระธรรมวินัย และพระปริยัติธรรมจนอายุครบอุปสมบท จึงอุปสมบทที่วัดลัดด่าน โดยมีพระอาจารย์เนตร วัดบ้านแหลม จังหวัดสมุทรสงคราม เป็นพระอุปัชฌาย์ พระอาจารย์เอี่ยม วัดลัดด่าน จังหวัดสมุทรสงคราม เป็นพระกรรมวาจาจารย์ พระอาจารย์ภู่ วัดบางกะพ้อม จังหวัดสมุทรสงคราม เป็นพระอนุสาวนาจารย์ หลังจากนั้นได้ไปเรียน วิปัสสนากรรมฐานกับพระอาจารย์รูปหนึ่งที่ จังหวัดกาญจนบุรี แล้วจึงกลับมาอยู่ที่วัดลัดด่าน
หลวงปู่ไข่ออกธุดงค์เป็นประจำทุกปี เป็นระยะเวลา 15 ปี เมื่อพบผู้ทุกข์ยากหรือเจ็บไข้ได้ป่วยท่านจะรักษาให้หายโดยตลอด เกียรติคุณของท่านจึงเป็นที่รู้จักถึงกรุงเทพฯ จึงมีผู้มานิมนต์ท่านให้มาจำพรรษาอยู่ที่วัดบางยี่เรือ 1 พรรษา และท่านก็ออกธุดงค์ไปในป่าอีก
ต่อมาท่านได้เดินทางเข้ากรุงเทพฯ และเห็นว่าวัดบพิตรพิมุข (วัดเชิงเลน) เป็นวัดที่เงียบสงบ จึงได้มาจำพรรษาที่วัดบพิตรพิมุขตลอดมา ท่านสอนพระกรรมฐานแก่พระภิกษุสามเณรและฆราวาสเสมอ นอกจากนี้ยังได้ช่วยรักษาผู้ที่ป่วยไข้มากมาย ทั้งยังได้บอกบุญแก่ญาติโยมให้ช่วยสร้างพระพุทธปฏิมากร ซ่อมแซมพระพุทธรูปของเก่าที่ชำรุด สร้างพระไตรปิฎก และปฏิสังขรณ์ซ่อมแซมกุฏิภายในวัด จนเจริญรุ่งเรืองมาจนทุกวันนี้
ชื่อเสียงของหลวงปู่ไข่ วัดเชิงเลน นั้นโด่งดังหลายทศวรรษ เพราะเป็นพระเกจิอาจารย์ผู้สร้าง พระปิดตา เนื้อผงคลุกรัก ที่มากด้วยพุทธคุณ และ เหรียญรูปเหมือน มีค่านิยมสูงในวงการพระเครื่อง นอกจากนี้ยังมีพระอรหัง กลีบบัวเคลือบ และไม่เคลือบ เครื่องราง เช่น ตะกรุด ผ้าประเจียด และรูปถ่าย แม้ หลวงปู่ไข่ ไม่ได้มียศถาบรรดาศักดิ์ เป็นเพียงพระหลวงตาประจำวัด แต่การปฏิบัติและกิตติคุณของท่าน เป็นที่เลื่องลือว่าทรงวิทยาวรคุณ เป็นพระวิปัสสนาที่มีชื่อเสียง และมีคุณธรรมสูง เป็นที่ยอมรับในหมู่นักปฏิบัติธรรม
หลวงปู่ไข่นอกจากจะเป็นผู้เคร่งครัดในการปฏิบัติแล้ว ท่านได้สร้างพระแจกแก่ลูกศิษย์ และผู้ที่มานมัสการท่าน เพื่อนำไปบูชาให้เกิดสิริมงคล วัตถุมงคลของหลวงปู่ไข่ วัดเชิงเลนที่ท่านแจกไปนั้น เป็นที่ยอมรับโดยทั่วไปว่าเด่นด้านเมตตา คงกระพัน มหาอุด และอื่นๆ อีกมากมาย
หลวงปู่ไข่เป็นพระที่สมถะใฝ่สันโดษ ไม่ยุ่งเกี่ยวกับใคร บรรดาศิษย์ของหลวงปู่ไข่เจ็บไข้ได้ป่วยก็มาหา หลวงปู่ไข่ก็จะแนะนำให้ไปซื้อยามาเสกให้กิน เมื่อมีเวลาว่าง หลวงปู่ไข่ก็จะสร้างพระ ตะกรุด ธง และเหรียญออกแจกจ่ายแก่บรรดาศิษย์ (Kachon.com, 2562)
หลวงปู่ไข่เริ่มอาพาธด้วยโรคชราตั้งแต่วันที่ 7 มกราคม พ.ศ.2475 ครั้นวันที่ 16 มกราคม พ.ศ.2475 เวลา 13.25 น. ก็ถึงแก่มรณภาพ
ก่อนเวลาที่จะมรณภาพ หลวงปู่ได้ข่มความทุกข์เวทนาให้หายไปได้ ประดุจบุคคลที่ไม่มีอาการเจ็บป่วยใดๆ แล้วขอให้ศิษย์ที่พยาบาลอยู่ ประคองตัวให้ลุกขึ้นนั่ง และให้จุดธูปเทียนบูชาพระ เมื่อกระทำนมัสการบูชาพระเสร็จแล้วก็เจริญสมาธิสงบระงับจิต เงียบเป็นปกติอยู่ประมาณ 15 นาที ก็หมดลมปราณ หลังจากที่ท่านละสังขารลูกศิษย์ผู้คอยเฝ้าพยาบาล จึงประคองร่างหลวงปู่ไข่ให้อยู่ในท่านอน รวมอายุได้ 74 ปี พรรษา 54 พรรษา (sanook, 2567)
ข้อมูลอ้างอิง
- Kachon.com (2562), “ตามรอยประวัติหลวงปู่ไข่ วัดบพิตรพิมุข (วัดเชิงเลน) ถนนจักรวรรดิ แขวงจักรวรรดิ เขตสัมพันธวงศ์ กรุงเทพมหานคร”, สืบค้นเมื่อ 29 ต.ค. 2568 จาก https://monkhistory.kachon.com/362374
- sanook (2567), “ประวัติ หลวงปู่ไข่ วัดเชิงเลน เกจิดังนักปฏิบัติ พระเครื่องยอดนิยม พุทธคุณเลื่องชื่อรอบด้าน”, สืบค้นเมื่อ 29 ต.ค. 2568 จาก https://www.sanook.com/news/9636366/
- ตลาดพระไทย (2565), “เหรียญหลวงปู่ไข่ วัดเชิงเลน รุ่น 2 ปี 2515 เนื้อทองแดง”, สืบค้นเมื่อวันที่ 28 ต.ค. 2568 จาก https://www.taladprathai99.com/detail.php?id_detail=187